ASIA AFRICA THAILAND ENGLAND BEACH PATTAYA JAPAN CHINA INDONESIA FRANCE TOKYO PARIS BANGKOK SINGAPORE INDIA UNITED STATES OF AMERICA CANADA LONDON MEXICO HAWAII LOS ANGELES PHILIPPINES AUSTRIA MANILA HANOI TAIWAN HONG KONG NEW ZEALAND AUSTRALIA SRI LANKA PHUKET WAT PRAKAEW EGYPT SAUDI ARABIA CAMBODIA BELGIUM BEIJING SYDNEY
Saturday, October 24, 2009
วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดประจำวังแห่งอาณาจักรกรุงศรี
พระอารามหลวง ถ้าเป็นยุคปัจจุบันนี้ เราต้องหมายถึง วัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีศาสดาราม ที่กรุงเทพมหานคร แต่หากจะย้อนเวลาไปยุคก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ พระอารามหลวง ต้องหมายถึง วัดพระศรีสรรเพชญ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา พูดภาษาง่ายๆก็คือ วัดพระศรีสรรเพชญ์แห่งนี้ เปรียบเสมือนเป็นวัดต้นแบบของการสร้างวัดประจำพระราชวัง(วัดพระแก้ว) ซึ่งวัดแห่งนี้มีความเป็นมาที่น่าสนใจอยู่มิใช่น้อย
วัดพระศรีสรรเพชญ์ เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ทางตอนเหนือ แล้วจึงโปรดฯให้ยกเป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างกับวัดมหาธาตุสุโขทัย ที่มีพระสงฆ์จำพรรษา ทั้งวัดมหาธาตุ สุโขทัย,วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่างก็ถูกสถาปนาขึ้นในมูลเหตุการสร้างวัดเดียวกันนั่นคือ "สร้างเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง"
ต่อมาในปี พ.ศ. 2035 รัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปเจดีย์องค์ตะวันออก เพื่อบรรจุพระอัฐิของพระราชบิดา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2042 พระองค์ก็ทรงให้สร้างพระเจดีย์องค์ต่อมา ซึ่งเป็นพระเจดีย์องค์กลาง เพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 พระบรมเชษฐาธิราช
ในปีต่อมา พ.ศ. 2043 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างพระวิหาร ทรงหล่อพระพุทธรูป ยืนสูง 8 วา (ประมาณ 16 เมตร)หุ้มด้วยทองคำหนัก 286 ชั่ง (ประมาณ 171 กิโลกรัม) ประดิษฐานไว้ในวิหาร ถวายพระนามว่า พระศรีสรรเพชญดาญาณ ซึ่งภายหลังเมื่อเสียกรุง พ.ศ. 2310 พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด และองค์พระพังยับเยิน รัชกาลที่ 1 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายมาประดิษฐานวัดพระเชตุพน และ บรรจุชิ้นส่วนซึ่งบูรณะไม่ได้เหล่านั้นไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นแล้วพระราชทานชื่อเจดีย์ว่า เจดีย์สรรเพชญดาญาณ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ วิหารทิศ
Saturday, October 3, 2009
ตื่นตาตื่นใจกับฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ
ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2493 โดย นายอุทัย ยังประภากร (นาย หยาง ไห่ ฉวน) เพื่อที่จะอนุรักษ์จระเข้สายพันธ์ต่างๆไว้ไม่ให้สูญพันธ์ ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ เป็นสถานที่เพาะพันธุ์จระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นแห่งแรกของโลกที่มีการเพาะเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์จระเข้ ที่ทันสมัยที่สุด มีการเพาะพันธุ์จระเข้ทุกสายพันธุ์ที่มีอยู่ในโลกนี้ โดยมีจำนวนจระเข้ในปัจจุบันเกือบถึง 80,000 ตัว ขนาดที่มีตั้งแต่ความยาวไม่เกินหนึ่งฟุต จนถึง 6 เมตร โดยเฉพาะจระเข้ขนาดยักษ์ความยาวประมาณ 5 – 6 เมตร นั้น มีจำนวนถึง 5 , 000 ตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากจากที่อื่น และในจำนวนนี้มีจระเข้พันธุ์ผสมระหว่างจระเข้น้ำจืดและน้ำเค็ม ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อว่า “ เจ้าใหญ่ ” โดยได้การรับรองจาก กินเนสบุ๊ค ออฟ เรคคอร์ด ว่าเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดความยาวเกือบ 6 เมตร น้ำหนักตัว 1114.27 กิโลกรัม
จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลาน ที่อาศัยอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มในน้ำนิ่ง เงียบสงบ ที่มีความลึกไม่เกิน 5 ฟุต ถึงแม้ว่าจระเข้จะมีรูปร่างที่ใหญ่โต แต่เมื่อเดินหรือคลานลงน้ำจะเงียบกริบ จึงเป็นนักล่าที่อันตราย ด้วยความแรงในการงับประมาณ 6,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หรือประมาณ 2,370 กิโลกรัมเลยทีเดียว
ภายในฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการก็จะมีสัตว์อีกหลายชนิดเช่น เสือ สำหรับคนที่ชอบความท้าทายก็สามารถถ่ายรูปคู่ร่วมกับเสือได้ โดยทางเจ้าหน้าที่จะบริการให้โดยไม่มีอันตรายเพราะเสือตัวนี้ไม่ดุร้ายแถมยังคุ้นเคยกับคนอีกด้วย…น่ารักมากๆมีคนให้ความสนใจกันอย่างมากมายและคนที่ชอบความสวยงามก็สามารถไปเข้าไปดูสวนนก รื่นรมย์ไปกับเสียงนก แวดล้อมไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ตื่นตาตื่นใจไปกับพันธ์นกนานาชนิดอย่างใกล้ชิดและยังให้อาหารนกได้อีกด้วย
และที่พลาดไม่ได้คงต้องเป็นการแสดงจระเข้ที่ทั้งแสนจะตื่นเต้น ตกใจ หวาดเสียว ขอบอกว่า ขวัญอ่อนอย่าดูเลยครับ เพราะการแสดงนี้เขาเอาจระเข้เป็นๆมาแสดงร่วมกันคนเป็นๆเหมือนกัน ไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่าถ้าคนเอาแขนหรือขาแม้กระทั่งหัวไปใส่ในปากจระเข้ที่กำลังอ้าปากรองับอยู่มันจะเสียวแค่ไหน ขนาดหมูหิน.คอมเราดูห่างๆไกลตั้งหลายเมตรยังกลัวจระเข้มันโดดมากัดเลย ขอปรบมือดังๆให้พี่ๆที่แสดงทุกคนเลยครับ คุณสุดยอดจริงๆ
หลังจากที่หวาดเสียวสุดๆกับการแสดงจระเข้แล้วสามารถเดินผ่อนคลายเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกได้โดยจะมีร้านจำหน่ายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้หลากหลายรูปแบบพร้อมยังได้ใบรับรองคุณภาพที่เชื่อถือได้อีกด้วย
ยังไม่หมด…ภายในฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการยังมีสัตว์อีกมากมายอาทิเช่น ฮิปโป สิงโต อูฐ เต่า ลิงไทย ลิงชิมแฟนซี เม่น ฟาร์มงู ฯลฯ เรียกได้ว่ามากมายมหาศาลจริงๆถ้าเดินดูคงต้องเมื่อยไปตามๆกันแต่ไม่เป็นไรที่นี่เขามีบริการรถไฟฟรีและรถม้าไว้ให้นั่งกินลมชมทัศนียภาพและบรรยากาศรอบๆฟาร์มถือได้ว่าเป็นความสนุกอีกรูปแบบหนึ่งและเป็นการพักผ่อนภายในตัว
ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการยังมีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ให้เพื่อนๆได้ย้อนอดีตกลับไปศึกษาชีวิต ความเป็นอยู่ และ บรรยากาศในยุคดึกดำบรรพ์จากซากฟอสซิลและโครงกระดูกที่น่าค้นหา และยังมีกิจกรรมต่างๆมีมากมายเช่น สนามยิงปืน จักยานน้ำ การแสดงดนตรี และยังมีบริการร้านอาหารที่มีเนื้อจระเข้ไว้ให้เพื่อนๆที่ชอบ เปิบพิศดารได้ลิ้มลองรสชาติอีกด้วย
ตื่นตาตื่นใจและทึ่งกับลานแสดงช้างที่มีช้างไทยแสนรู้โชว์ความสามารถให้ผู้ชมได้ อึ้ง ทึ่ง เสียว ไปตามๆกัน หนึ่งในเอกลักษณ์ประจำชาติของไทย ที่สร้างความประทับใจไปทั่วโลกโดยมีคนไทยและต่างชาติให้ความสนใจกันอย่างมากมาย
Subscribe to:
Posts (Atom)